การขยายความต้องการภายในประเทศ: พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนสู่ความมั่นคงและยั่งยืนในปี 2568
Baolabee เว็บไซต์ที่รวบรวมโรงงานจีนไว้มากที่สุดในประเทศไทย พาคุณไปจับตาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การขยายความต้องการภายในประเทศ (Domestic Demand) ได้กลายเป็นกลยุทธ์หลักที่จีนใช้เพื่อผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคต โดยเฉพาะในปี 2568 ที่ถูกกำหนดให้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ “ขยายความต้องการภายในอย่างจริงจัง” เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนให้เติบโตอย่างมีพลัง
เหตุใดความต้องการภายในถึงเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก
จากการประชุมงานเศรษฐกิจส่วนกลาง (Central Economic Work Conference) ซึ่งเป็นเวทีกำหนดนโยบายเศรษฐกิจประจำปีของจีน การขยายความต้องการภายในถูกยกให้เป็นภารกิจอันดับหนึ่งสำหรับปี 2568 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาตนเองได้มากขึ้นและลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดโลก
-
วิสัยทัศน์จากผู้นำ: ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระบุว่า “เราต้องสร้างฉากการบริโภคที่หลากหลายและปลดปล่อยศักยภาพของการบริโภคและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง” เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
-
การปฏิบัติทั่วประเทศ: หน่วยงานท้องถิ่นและภูมิภาคต่าง ๆ นำนโยบายนี้ไปปรับใช้อย่างจริงจัง เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวในฤดูหนาวและการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่
-
เป้าหมายระยะยาว: การขยายความต้องการภายในไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างความมั่นคงและการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจจีน
การบริโภคและการลงทุน: แรงผลักดันที่กำลังพุ่งทะยาน
การบริโภคและการลงทุนกลายเป็นสองเสาหลักที่สะสมพลังเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน โดยมีตัวอย่างจากทั่วประเทศที่แสดงถึงศักยภาพอันมหาศาล
-
การท่องเที่ยวหิมะที่ฉางไป๋ซาน: ภูเขาฉางไป๋ซานในมณฑลจี๋หลินกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในฤดูหนาว หิมะสีขาวบริสุทธิ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุม เช่น ไป๋ ซินเยว่ อาจารย์จากหนานจิง ที่พาครอบครัวมาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวหิมะครั้งแรก สะท้อนถึงการเติบโตของการบริโภคเชิงประสบการณ์
-
โครงการลงทุนที่ฉวนโจว: ในมณฑลฝูเจี้ยน งานลงนามสัญญาโครงการลงทุนล่าสุดมีถึง 88 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านหยวน โดยเน้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น ควอนตัม หุ่นยนต์อัจฉริยะ และเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งเป็นการปูทางสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว
-
นโยบายผสมผสาน: การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการออกนโยบายใหม่ ๆ เช่น การสนับสนุนการบริโภคสินค้าใหม่ทดแทนสินค้าเก่า ช่วยกระตุ้นทั้งการใช้จ่ายของประชาชนและการลงทุนจากภาคเอกชน
โรงงานจีน: แรงขับเคลื่อนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก
โรงงานจีนยังคงเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจจีนและห่วงโซ่อุปทานโลก โดยเฉพาะในช่วงที่จีนมุ่งเน้นการขยายความต้องการภายในประเทศ โรงงานจีนได้ปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อนโยบายใหม่ ๆ ของรัฐบาล เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการลงทุนในเทคโนโลยีสมัยใหม่
-
การปรับตัวของโรงงานจีน: โรงงานจีนหลายแห่งได้ลงทุนในเทคโนโลยีอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่
-
การสนับสนุนจากรัฐบาล: รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายสนับสนุนโรงงานจีนในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีสีเขียว ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ข้อมูลตัวเลข: หลักฐานความสำเร็จของนโยบาย
ตัวเลขล่าสุดจากปี 2567 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่น่าประทับใจของการขยายความต้องการภายในประเทศ
-
ยอดค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค: ทั้งปีอยู่ที่ 487,895 ล้านหยวน เติบโต 3.5% จากปีก่อนหน้า โดยในเดือนธันวาคม 2567 อัตราการเติบโตพุ่งถึง 3.7% สูงกว่าเดือนพฤศจิกายน 0.7 จุด
-
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร: มูลค่ารวม 514,374 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.2% และเมื่อหักผลกระทบจากราคาแล้ว เติบโตจริงถึง 4.8%
-
การลงทุนในภาคการผลิต: เติบโตสูงถึง 9.2% สูงกว่าค่าเฉลี่ยการลงทุนทั้งหมด 6.0 จุด แสดงถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและนวัตกรรม
-
การท่องเที่ยวและบริการ: การใช้จ่ายด้านการเดินทางและการค้าปลีกบริการเติบโตในระดับสองหลัก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ตลาดที่คึกคัก: จุดเด่นของการบริโภคและการลงทุน
ตลาดการบริโภคและการลงทุนในจีนกำลังเฟื่องฟู โดยมีไฮไลต์ที่น่าสนใจดังนี้
-
การท่องเที่ยวหิมะ: ข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์เผยว่า การค้นหาคำว่า “สกี” ในฤดูหนาว 2567 เพิ่มขึ้น 83% และคำค้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวหิมะโตกว่า 3 เท่า สะท้อนถึงความนิยมที่พุ่งสูง
-
การบริโภคหลากมิติ: การส่งเสริมการซื้อสินค้าใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยใหม่ ร่วมกับการเติบโตของการค้าปลีกบริการและการท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน
-
โครงการลงทุนขนาดใหญ่: ที่ฉวนโจวมีการลงนามสัญญากว่า 1,300 โครงการใน 11 เดือนแรกของปี 2567 รวมมูลค่า 8 แสนล้านหยวน โดยเน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ เช่น พลังงานสะอาดและปัญญาประดิษฐ์
-
กิจกรรมส่งเสริม: หน่วยงานท้องถิ่นจัดงานเทศกาลและโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการบริโภค โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นฤดูกาลสำคัญของการใช้จ่าย
กลยุทธ์ระยะยาว: มากกว่าแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
การขยายความต้องการภายในไม่ใช่แค่มาตรการชั่วคราว แต่เป็นยุทธศาสตร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งความท้าทายในปัจจุบันและเป้าหมายระยะยาวของจีน
-
กฎของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ: ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ต่างพึ่งพาความต้องการภายในเป็นหลักเมื่อ GDP ต่อหัวเกิน 20,000 ดอลลาร์ ซึ่งจีนกำลังก้าวเข้าสู่จุดนี้
-
รับมือความผันผวนโลก: การพึ่งพาความต้องการภายในช่วยลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการลดลงของการส่งออก
-
เป้าหมายสังคมนิยมสมัยใหม่: การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านการบริโภคและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์จีนในศตวรรษที่ 21
-
ตอบสนองความต้องการประชาชน: การขยายความต้องการภายในสอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชนที่ต้องการชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านรายได้และโอกาส
แนวทางการยกระดับ: การบริโภคและการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูง
เพื่อให้การขยายความต้องการภายในประสบความสำเร็จ จีนได้วางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งสองด้าน
-
การกระตุ้นการบริโภค:
เพิ่มรายได้ประชาชนผ่านนโยบายสนับสนุนการจ้างงานและสวัสดิการ
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการบริโภค เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเมืองและชนบท
สร้างฉากการบริโภคใหม่ เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กีฬา และดิจิทัล -
การเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน:
เน้นโครงการที่มีผลกระทบระยะยาว เช่น โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและพลังงานสะอาด
สนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยี เช่น AI และเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ
โอกาสและศักยภาพของจีนในอนาคต
ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง ข้อได้เปรียบด้านประชากรและทรัพยากร รวมถึงศักยภาพที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จีนมีโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการใช้ความต้องการภายในเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจ
-
ข้อได้เปรียบของจีน: ตลาดขนาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมั
-
ศักยภาพที่ซ่อนอยู่: การเติบโตของชนชั้นกลางและความต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง
-
นโยบายที่ครอบคลุม: การผสานการบริโภคและการลงทุนอย่างลงตัวจะช่วยปลดปล่อยพลังที่ยังไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่
เศรษฐกิจจีนกับอนาคตที่ยั่งยืน
การขยายความต้องการภายในประเทศไม่เพียงแต่เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้จีนฝ่าฟันความท้าทายในปัจจุบัน แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต ด้วยนโยบายที่ชาญฉลาดและการปฏิบัติที่จริงจังจากทุกภาคส่วน เศรษฐกิจจีนในปี 2568 และต่อจากนี้จะเป็นแบบอย่างของการพัฒนาที่สมดุลและมั่นคงสำหรับโลก
